Skip to main content

มาดูกันว่า หน้าจอมือถือความละเอียดระดับ Full HD มันละเอียดขนาดไหน



หากนับย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว (ปี 2008) ปีนั้นเป็นปีแรกที่ Android เครื่องแรกของโลก (HTC G1) ได้ถูกเปิดตัวต่อหน้าสาธารณะชน โดยหน้าจอของ HTC G1 ในตอนนั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 320 x 480 พิกเซลเท่านั้น

แต่วิวัฒนาการของมือถือ Android นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้หน้าจอของมือถือ Android ในตอนนี้มีความละเอียดระดับ Full HD ไปแล้ว (1920 × 1080 พิกเซล)

ในวันนี้เราจะมาดูกันว่าหน้าจอที่มีความละเอียดระดับ Full HD 1080p จะมีความแตกต่างกับมือถือที่มีความละเอียดระดับ HD 720p มากน้อยแค่ไหน โดยมือถือที่เราจะมาทำการเปรียบเทียบกันจะมี HTC DROID DNA, Nexus 4 และ Galaxy S3

โดย HTC DROID DNA จะมีหน้าจอ Super LCD 3 ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 (440 ppi), Nexus 4 หน้าจอ True HD IPS LCD ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1280×768 (320 ppi) และ Galaxy S3 หน้าจอ HD Super AMOLED ขนาด 4.8 นิ้ว ความละเอียด 1280×720 (306 ppi)

รูปที่ย่อขนาดมาอาจจะทำให้เรายังดูไม่ออกว่ามันแตกต่างกันยังไง แนะนำให้ลองไปดูภาพขนาดเต็มๆ เพื่อเปรียบเทียบอีกครั้งนึง


จากรูปภาพด้านบนที่ถูกถ่ายมาจากกล้องเพื่อให้เราได้เห็นถึงความละเอียดระดับพิกเซล ทำให้เราเห็นว่าหน้าจอความละเอียดระดับ Full HD นั้นค่อนข้างที่จะดูดีทีเดียว แต่ว่าสายตาคนเราเวลาใช้งานจริงๆ มันจะแยกออกรึเปล่าว่าความละเอียดระดับ Full HD และความละเอียดระดับ HD มันแตกต่างกันยังไงในมือถือที่มีขนาดเล็กๆ ไม่เกิน 5 นิ้ว?

ที่มา Droid-Life

Comments

Popular posts from this blog

ลองเล่นและเรียนรู้พื้นฐานขั้นต้นของ Spring Framework

** สำหรับใครที่ไม่เคยเรียนรู้ในด้านของ Java EE หรือ J2EE อาจจะมึนงงกับศัพท์หน่อยครับ ทำไมต้อง Spring Spring เป็น framework ที่นิยมมากในการนำไปสร้างระบบในระดับ enterprise ในเริ่มแรกที่ Spring เกิดมา มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะมาแทนที่มาตรฐานของ Java อย่าง J2EE (Java 2 Enterprise Edition) ที่มันทั้งหน่วงทั้งอืดและยุ่งยาก โดยเฉพาะในส่วนของ EJB (Enterprise Java Bean) ที่ถือว่าเป็นฝันร้ายของนักพัฒนา ทำให้กูรูสาย Java ในช่วงนั้นถึงกับแนะนำว่า ถ้าจำเป็นที่ต้องพัฒนาระบบด้วย J2EE จงอย่าใช้ EJB ถึงขั้นถึงกับมีหนังสือแนะแนวทางการพัฒนาระบบ J2EE โดยไม่ใช้ EJB อย่างไรก็ตามทาง Sun ผู้เป็นเจ้าของ Java ในสมัยนั้น ถึงกับต้องมาล้างระบบ J2EE ใหม่ในปี 2006 จัดการใน EJB ให้ใช้ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการเปลี่ยนชื่อจาก J2EE เป็น Java EE (Java Enterprise Edition) เพื่อลบภาพอันเลวร้ายของเดิมให้หมด และได้มีการนำฟีเจอร์เด็ดๆ ของ open source framework หลายๆ ตัว อย่างเช่นแกนหลักของ Spring อย่าง IoC (Inversion of Control) หรือ OR Mapping (Object Relational Mapping) ที่เป็นที่นิยมอย่าง Hibernate แต่ก็ไ...

ลองเล่น SonarQube คลื่นโซนาร์ช่วยตรวจสอบคุณภาพของ code

SonarQube  คือเครื่องมือช่วยตรวจสอบคุณภาพของ source code ช่วยหาข้อบกพร่องใน source code ไม่ว่าจะเป็น Bug ที่น่าจะเกิดขึ้น ช่องโหว่ทางด้านความปลอดภัยหรือกลิ่นไม่ดีใน source code ของเรา (Code Smell) และ ช่วยตรวจสอบเราเขียน code ทดสอบครอบคลุมหรือดีแล้วยังยัง (code coverage) Code Smell ไม่ได้ใช้วัดว่า source code นี้สามารถทำงานได้ถูกต้อง มี bug หรือช่องโหว่หรือไม่ แต่ Code Smell ใช้วัดถึงคุณภาพของการออกแบบ เพื่อตรวจสอบว่า source code ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจะสามารถต่อเติม แก้ไขหรือทดสอบได้ง่ายหรือไม่ โดยหลักเกณฑ์ที่นำมาใช้วัดในส่วนของ Code Smell คือ ความซ้ำซ้อนของ code มี code แบบเดียวกันไปซ้ำกันในไฟล์ไหนบ้าง ตรวจสอบเงื่อนไขใน if ให้ ว่าเงื่อนไขตรงนี้มันมีโอกาสเป็นไปได้ไหม เพราะบางทีเงื่อนไขที่เราเขียนขึ้นมาเพื่อดักไว้ในบางครั้งมันแทบจะไม่มีโอกาสที่เวลามันทำงานแล้วเข้าเงื่อนไขในส่วนนั้น เป็นต้น สามารถไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://www.somkiat.cc/code-smell-internal-class/ นอกจาก SonarQube จะสามารถบอกถึงคุณภาพของ source code เราได้แล้ว ยังสามารถใช้ในการแจกแจงง...

Inversion of Control และ Dependency Injection

Inversion of Control (IoC) คืออะไร IoC เป็นทฤษฏีที่ว่าด้วย การลดความผูกมัด (dependency) กันในระหว่าง module เพื่อให้ application ของเราแก้ไข (maintain) ต่อเติม (extensible) หรือทดสอบ (test) ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเอาจริงๆ IoC เป็นอะไรที่ทำให้เราสับสนและงุนงงมากๆ ว่ามันคืออะไร หลายๆ คนจึงยกให้ว่า IoC คือ Dependency Injection (DI) ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ถูกซะทีเดียว  Dependency คืออะไร Dependency คือการผูกมัดที่เกิดขึ้นในระบบ เมื่อ module นึงมีการเรียกใช้อีก module นึงด้วยการอ้างอิง (reference) ตรงๆ แล้วอะไรที่เรียกว่าการ อ้างอิง (Reference) แบบตรงๆ   อย่างภาพ diagram ด้านบน class LogEngine มีการเรียกใช้ ConsoleLog โดยตรง ซึ่งมองผ่าน diagram อาจจะไม่เห็นภาพลองดู code กัน public class ConsoleLog { public void openLog(){ //do something to open log } public void log(String message){ //do something to log } public void closeLog(){ //do something to close log } } public class LogEngine { private ConsoleLog log; public LogEng...