plaumkamon

บางครั้งการจะอธิบายถึงความเจ๋งของบริการหลายๆ อย่างจาก Google ให้กับคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องทางด้านนี้ จะพบว่าเป็นเรื่องที่ยาก แต่ต้องขอบคุณ Google ซึ่ง Google เป็นบริษัทเทคโนโลยีหนึ่งที่ให้ความสนใจในด้านนี้ จะพบว่าโฆษณาแต่ละตัวของ Google นอกจากจะแนะนำผลิตภัณฑ์ของตัวเองแล้ว ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ อย่างเช่น Google Chrome ( 1 , 2 ) วันนี้ Google ได้อัพโหลดโฆษณาตัวใหม่ แนะนำให้เห็นถึงข้อดีของบริการแบบกลุ่มเมฆ (Cloud) ใน Play Music และ Play Movies ที่สามารถเปิดเพลงหรือภาพยนต์ที่คุณซื้อได้ในทุกอุปกรณ์ผ่าน Play Store (ซึ่งคนไทยยังใช้บริการเหล่านี้ไม่ได้) Play Movies Play Music ดูวิดีโอจบแล้วอยากให้ Uni TV เปิดบริการให้ใช้เร็วๆ ที่มา Phandroid

Android ตั้งแต่เกิดมาจนอายุใกล้จะครบ 5 ปีได้มีพัฒนาการที่ดีมาตลอด แต่จะโดนค่อนแขะจากระบบปฏิบัติการอื่นๆ ว่าให้ประสบการณ์ในการใช้งานของผู้ใช้ (User Experience) ที่แย่มากในด้านของ User Interface (UI) ใครที่เคยเล่น Android ในช่วงแรกๆ จะพบว่าต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่นานพอสมควร บางคนถึงกับขนานนามว่า Android นั้นเป็นมือถือของพวก Geek เท่านั้น แน่นอนว่า Google ก็ไม่ได้นิ่งดูดายพยายามปรับปรุงด้านนี้อยู่ตลอด จนกระทั่งใน Ice Cream Sandwich (ICS) ที่ Google ได้ยกเครื่อง UI ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เชื่อว่าคงไม่มีใครปฏิเสธว่าการยกเครื่องครั้งนี้ เป็นเหมือนการพลิกโฉมหน้าของ UI บน Android เพราะ Holo UI ใน Ice Cream Sandwich มีความสวยงามน่าใช้ และให้ User Experience ที่ดีขึ้นมาก จากความพยายามของ Google ในการปรับปรุง UI ทำให้ ICS ได้รับรางวัล Gold Prize ในสาขา Best platform experience จากงาน 2012 User Experience Awards จากการที่ ICS ได้รับรางวัลในครั้งนี้ อาจทำให้นักพัฒนาคงต้องกลับมาคิดใหม่ ในการอัพเดทแอพของตนให้เป็นแบบ Holo UI เพราะในตอนนี้แอพใน Play Store ที่อัพเดทมาเป็น Holo UI ถือว่

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนคงเคยเห็น Final Fantasy ที่ทาง Square Enix รีเมคใหม่ลงมือถือใน iPhone กันแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วใน Android ทาง Square Enix ก็ทำออกมาขายนะครับ เพียงแต่ยังจำกัดตลาดขายเฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น (ไม่ได้ขายใน Play Store) เชื่อว่าในตอนนี้หลายๆ คนยังคงคาดหวังให้เกมส์ Final Fantasy ลง Play Store ซักที แต่ดูเหมือนว่าทาง Square Enix ไม่อยากขายเกมส์บน Play Store ซักเท่าไร เพราะเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมาทาง Square Enix เปิด ขาย Final Fantasy ฉบับภาษาไทยโดยการหักเงินจากมือถือ (รองรับ AIS, DTAC, TRUE) โดย Final Fantasy ฉบับภาษาไทยนี้ทาง Square Enix ได้มอบหมายให้บริษัท Game Square Interactive Co.,LTD. เป็นผู้พัฒนาและจัดจำหน่าย Final Fantasy ฉบับภาษาไทย ซึ่งเป็นการทดลองตลาดเกมส์ในไทยของ Square Enix โดยไทยไม่ใช่ประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน (SEA) ที่ Square Enix ทดลองขายเกมส์ ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียก็มี Final Fantasy ฉบับภาษาของตัวเอง สำหรับผู้ใช้ Samsung Galaxy W เช่นกัน ถ้าหากโปรเจคครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ก็มีโอกาสที่จะเห็น Final Fantasy ภาคอื่นๆ ในฉบับภาษาไทย หรือแม้ก

เชื่อว่าหลายๆ คนที่เป็น power user ชอบลองลง ROM นู้นแล้วย้ายมา ROM นี้คงเคยใช้ Titanium Backup ซึ่งตัว Titanium Backup ค่อนข้างจะสมบรูณ์สามารถสำรองทั้ง แอพและดาต้า เพียงแต่ถ้าเป็นตัวฟรีจะไม่มีให้เลือกสำรอง แอพและดาต้า ได้ทั้งหมดในคราวเดียวกันต้องเลือกทำทีละแอพ ซึ่งแน่นอนว่าแอพในเครื่องของแต่ละคนแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ 10 - 20 แอพแน่นอน บางคนอาจจะมีเป็นหลักร้อยก็เป็นได้ และปัญหาอีกอย่างของ Titanium Backup คือหน้าตาของ User Interface (UI) ที่ค่อนข้างที่จะใช้ยาก เชื่อว่าหลายคนคงเป็นเหมือนผม ที่ใช้แอพนี้ครั้งแรกถึงกับมึน มันอะไรกันนี่ วันนี้เลยจะแนะนำอีกทางเลือกอย่าง GO Backup ที่ UI สวยงาม ใครๆก็ใช้ได้ไม่งง (แต่ต้อง Root นะ) ตอน backup นอกจากจะ backup แอพได้แล้วยัง backup พวก contact, message, call log และ Wi-Fi Access Point ได้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสำรองทั้งหมดในคราวเดียวได้อีกด้วย แต่ GO Backup ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ไม่สามารถ backup แอพของระบบได้ (System App) อย่าง Email หรือ Browser เป็นต้น ซึ่ง Titanium Backup ทำได้ ไม่ สามารถสร้าง Script (update.zip) ไว

พอดีผมสมัคร eBay ไปเพื่อต้องการที่จะซื้อ แบตเสริมให้กับมือถือ เห็นว่าราคามันถูกดี ถูกจนมันน่าสงสัยว่าใช้ๆ ไปแบตจะระเบิดหรือเปล่า เพราะราคาแค่ 300 กว่าบาทได้แบตสามก้อน + wall charge อีกหนึ่งอัน เป็นใครก็ต้องสงสัยว่ามันจะดีหรือเปล่า พอดีเห็นคนในบอร์ด Galaxy Lover ซื้อมาใช้ เอามาเป็นแบตสำรอง แบบว่าจำเป็นจริงๆ ค่อยใช้ คิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อีกอย่างราคาแค่ 300 มันถูกมาก เลยตัดสินใจสมัคร eBay แล้วกดซื้อมา (ภาพจาก Galaxy Nexus Club ) ตอนสมัคร eBay ก็ link กับ paypal เรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้เคยสมัคร paypal ไว้นานแล้ว และทำการ verify paypal ไว้แล้วด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ == เลย inactive บัตรเครดิตไปก่อน มาคราวนี้ก็ link บัตรเครดิตกับ paypal อีกรอบ คราวนี้มันให้ verify ใหม่ โดยการ verify ที่ว่า มันเป็นการตรวจสอบว่าบัตรเครดิตของเราใช้ได้จริงหรือเปล่า paypal จะทดสอบหักเงินจากบัตรเครดิตของเราไป 70 บาท แล้วจะคืนเป็น credit ใน paypal ให้เมื่อ verify เสร็จแล้ว (ไม่ยอมคืนเครดิตให้ตรงๆ) ซึ่งการเบิกเงินของ paypal ถ้าต่ำกว่า 5000 มันจะมีค่าธรรมเนียม == การ verify ใหม่ในครั้งน

เพื่อนๆเคยสังเกตไหมว่า Boot Animation CyanogenMod (CM) จะเป็นรูปของ Android ที่กำลังเล่นสเกตบอร์ด ซึ่งเจ้าตัวนั้นทาง CM ไม่ได้เรียกมันว่า Android แต่เรียกมันว่า "บั๊กดรอยย์" (Bugdroid) โดยเจ้า "บั๊กดรอยย์" ก็มีชื่อเล่นว่า "Andy" Andy เป็นมาสคอตของ CM มานานถึง 3 ปี เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาทางนักพัฒนา CM ได้เปลี่ยนมาสคอตมาเป็น Cid Cid (Pronounced: /si:d/) ย่อมาจาก CyanogenMod ID หมายถึงสมาชิกในบอร์ดของเว็บ CyanogenMod ซึ่งเกิดมาจากนักพัฒนา CM ชักชวนแฟนๆ มาร่วมกันออกแบบมาสคอตตัวใหม่ โดยมาสคอตตัวใหม่ถือกำเนิดมาจากผลงานของนาย Caio Alves ที่ส่งมาเข้าตานักพัฒนา CM นาย Caio Alves ได้แรงบรรดาลใจในการสร้าง Cid มาจากหุ่นฟิกเกอร์ 2 ตัวในห้องเค้า โดยหุ่นฟิกเกอร์ 2 ตัวนี้เป็นตัวการ์ตูนฮีโร่ที่มีลักษณะเป็น humanoid (หุ่นยนต์ลักษณะคล้ายคน) มีรูปลักษณ์มันคล้ายๆ กับ Android Robot ทำให้มาสคอตตัวใหม่มีรูปลักษณ์ที่คล้ายกับคนมากกว่าคาแรกเตอร์ของ "บั๊กดรอยย์" (Andy) โดยไอเดียการออกแบบ Cid ต้องการแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ (Evolution) จากสิ่งที่เป็นอยู่ นา

หลังจากที่ Viewsonic ออกมาประกาศจะทำ Tablet จอ 22 นิ้ว เชื่อว่าใครหลายๆ คนคงไม่ได้คาดคิดว่าจะมีผู้ผลิตรายอื่นจะทำ Tablet ขนาดใหญ่เหมือน Viewsonic แต่วันนี้ ASUS ทำให้คนที่รอ Tablet dual-boot ระหว่าง Windows 8 และ Android อาจจะต้องผิดหวัง เมื่อ ASUS เปิดตัว ASUS Transformer AiO ซึ่งเป็น Tablet dual-boot ระหว่าง Windows 8 และ Android ที่จะมาพร้อมกับหน้าจอ 18.4 นิ้ว !!! ASUS Transformer AiO นี้เมื่อเสียบ Dock อยู่มันจะรัน Windows 8 แต่เมื่อถอดออกจาก Dock จะเปลี่ยนมารัน Android 4.0 ดูเหมือนว่ามันยังไม่สมบรูณ์ซักเท่าไร เพราะมันจะเปลี่ยนไปรัน Android 4.0 ก็ต่อเมื่อถอดจาก Dock ซึ่งมันน่าจะมีปุ่มกดไว้สำหรับการเปลี่ยนโหมดระหว่าง Android และ Wondows 8 (คิดว่าคงไม่มีใครถือ Tablet 18.4 นิ้วเพื่อมาเล่น Android หรอก) ในตัว Dock จะมีพอร์ท USB 3.0 พอร์ทอีเทอร์เน็ต (ไว้เสียบสายแลน) และมี Optical Drive ส่วนหน้าจอเป็นแบบ LED backlit สามารถรองรับ multi-touch สูงสุด 10 จุด ที่มา The Verge ผ่าน AndroidAndMe ปล. ถ้าเอาไปถือรถไฟฟ้า เชื่อว่าหลายๆ คนคงคิดว่ากำลังขนทีวี :(